ชุบชีวิต Jaguar E-Type จากรถยนต์คลาสสิกสู่รถยนต์ไฟฟ้าสุดคูล

ชุบชีวิต Jaguar E-Type จากรถยนต์คลาสสิก
สู่รถยนต์ไฟฟ้าสุดคูล

Acclaimed by Enzo Ferrari as “The most beautiful car in the world”, the Jaguar E-type now combines breathtaking beauty with zero emissions for the first time

คำกล่าวยกย่องจากบุคคลในตำนานอย่าง Enzo Ferrari ผู้สร้างรถยนต์ Super Car สุดหรูค่ายคุ้นหู ม้าลำพองหรือ Ferrari ว่า Jaguar E-type เป็นรถคลาสสิกที่ยกให้เป็น “รถยนต์ที่สวยที่สุดในโลก”

   ผ่านกาลเวลามานานหลายทศวรรษ  ความสวยงามอันเลื่องชื่อยังคงตราตรึงอยู่ในใจของนักสะสมรถยนต์คลาสสิกไม่เปลี่ยนแปลงกับรถยนต์สุดหรู Jaguar E-type ที่ถูกผลิตขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1968 จนกระทั่งปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมานี้ รถยนต์ Jaguar E-type ถูกเผยโฉมอีกครั้งในการพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่ รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ  ความพิเศษของเจ้า Jaguar E-type รุ่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นรถคลาสสิกที่ทรงคุณค่าเท่านั้น แต่เจ้า Jaguar E-type ดันถูกปรับแต่งให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาสูงถึง 350,000 ปอนด์ หรือราว ๆ 15,000,000 บาทในเวลานั้น  และใช้ชื่อใหม่ว่า “Jaguar E-type Zero”  ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคลาสสิกที่ได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลกเป็นอย่างมาก

ร่างเดิม หัวใจใหม่

   Jaguar E-type Zero ถูกปรับแต่งจากเครื่องยนต์สันดาปให้กลายเป็นเครื่องยนต์พลังมอเตอร์ไฟฟ้า 100% หรือรถ EV (Electric Vehicle) นั้นเอง ภารกิจการคืนชีพเจ้า Jaguar E-type ในครั้งนี้ สร้างปรากฏการณ์ให้คนทั่วโลกกลับมาหลงมนต์เสน่ห์เจ้ารุ่นนี้อีกครั้ง Jaguar E-type Zero ถูกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงถึง 225 แรงม้าและมาพร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 40 kWh โดยติดตั้งที่ตำแหน่งฝากระโปรงท้ายรถ ที่เดิมของเครื่องยนต์ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 5.5 วินาทีเท่านั้น (ทำความเร็วได้เร็วกว่า Jaguar E-type รุ่นเดิมเสียอีก ) ใช้เวลาการชาร์จไฟ 1 ครั้งอยู่ที่ประมาณ 6-7 ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเต็มสามารถเดินทางได้ไกลถึง 270 กิโลเมตรเลยทีเดียว และยังมีความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือ น้ำหนักของตัวรถลดลงถึง 46 กิโลกรัม

โฉมอมตะตลอดกาล

     กาลเวลาไม่อาจคร่าความอมตะนี้ไปได้ ถึงแม้ Jaguar E-type Zero จะถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ แต่รูปโฉมยังคงเดิม ดั่งที่เคยเป็นมา แม้กระทั่งจุดชาร์จไฟของรถคันนี้ ยังถูกซ่อนไว้ที่ตำแหน่งของฝาถังน้ำมันรถอย่างเนียน ๆ ไม่สังเกตก็แทบไม่รู้ว่าคือรุ่นปรับเครื่องยนต์ใหม่

      ภายในห้องโดยสารยังคงกลิ่นอายของความคลาสสิกอยู่เช่นเดิม แต่ถูกปรับแต่งให้มีความทันสมัยขึ้นเล็กน้อย  ด้วยการตกแต่งแผงคอนโซลด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมกับติดตั้งหน้าจอแบบ Infotainment แบบสัมผัส และปรับแต่งแผงมาตรวัดความเร็วให้เป็น LED   ในด้านของชุดเกียร์ถูกปรับแต่งตามเอกลักษณ์ของรถ Jaguar รุ่นใหม่ ๆ โดยเปลี่ยนมาใช้เกียร์แบบปุ่มหมุนแทน เรียกว่าเป็นการสร้างภาพจำที่โดดเด่นเหนือกาลเวลาได้อย่างลงตัวที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก  Jaguar, Grandprix 

ดูรายละเอียดรถยนต์ Jaguar คลิก 

อ่านข่าวสารและโปรโมชั่น คลิก 

อ่านสาระน่ารู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ คลิก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save